เรื่องของอาโย the Cinderella story ตอนที่ 2

#เรื่องของอาโย


เราไม่สามารถเปลี่ยนอดีตของหมาตัวหนึ่งได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนอนาคตของเค้าได้ ตลอดไป
…because there can be a happy ending

อาโยมาถึง กทม วันที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยสายการบินนกแอร์ เป็นการขึ้นเครื่องครั้งแรก ไม่ต้องสงสัย แต่ flight แค่ 1.5 ชั่วโมง เราก็คิดว่าน่าจะสบายๆ เราเป็นคนไปรับที่ดอนเมือง ให้คนขับรถขับรถตู้ไป จะได้ใส่กรงนางได้ เพราะกรงขนาดใหญ่ ไปถึงพอดีๆ กับเวลาเครื่องลง แล้วไปรอตรงที่รับสินค้า เค้าบอกต้องรอเคลียร์ของซักครู่ ผ่านไปประมาณ 20 นาที ฝนเริ่มตกปรอยๆ และไม่นานก็ตกฮึ่มๆ ต่อมาอีกประมาณ 20 นาทีก็เริ่มมีสัตว์นู่นนี่ทยอยกันออกมา เรามองเห็นกรงใหญ่ๆ เหมือนในรูปที่ทางคลินิกที่เชียงรายส่งมาละ อยู่หลังประตูรั้วอีกชั้น ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่านั่นน่าจะเป็นหมาที่เรารออยู่ เค้าก็จัดแจงเอากรงนางขึ้นรถเข็นออกมาให้ ปล่อยลงตรงที่คนรอๆ กันอยู่ คือกรงมาแบบเปียกซก ไม่ได้เปียกน้อยๆ แต่เปียกไปหมด ไม่มีที่แห้งเลย ด้วยความสงสารหมาก็เปิดกรงทันที ไม่ได้คิดให้รอบว่า ออกมาแล้วจะนางจะยอมขึ้นรถมั๊ย เอาเข้ารถทั้งกรงแล้วค่อยไปเอาออกที่บ้านดีรึเปล่า เราเป็นคนไม่ค่อยเลี้ยงหมาแบบใส่กรงเท่าไหร่ โฮย่าไม่เคยนอนกรงเลย เวลาไปฝากเลี้ยงก็ต้องไปฝากที่เป็นบ้าน นอนกับคนเท่านั้น
 

เปิดประตูกรงปั๊ป อาโยก็รีบเดินออกมา และทันใดนั้นความจริงก็ประจักษ์ ขรี้เต็มกรงเรยจร้า โอ๊ย การเป็นแม่มันเป็นแบบนี้ ต้องประเดิมด้วยการเช็ดขรี้ทุกครั้ง กลัวจนอึ๊แตก ออกจากกรงแล้วก็ทื่อเป็นรูปปั้นหมาเปียก ไม่ยอมเดินเลยจ้า ดีว่าเราเอาขนมหมาติดไปด้วย ก็ล่อมาได้ช้าๆ พอนางรู้ตัวว่าโดนหลอกก็ถอย เราก็ไม่ไหวจะลาก สุดท้ายหลอกมาได้ครึ่งทางแล้วให้คนรถลากตากฝนแล้วอุ้มขึ้นรถทั้งตรูดเปื้อนขรี้ ผ้าเช็ดก็ไม่มี ได้กระดาษหนังสือพิมพ์ไม่กี่แผ่นมาจากสายการบิน ก็นั่งไปกันอย่างนั้น ทั้งเปียกทั้งเหม็น จนถึงบ้าน เปิดประตูรถ นางโดดลงก็เรียกแม่บ้านมาจับไปอาบน้ำโดยด่วน คือเข้าใจว่าหมาที่เพิ่งมีประสบการณ์ระทึกขวัญจนอึ๊แตกมา ขึ้นรถกับคนแปลกหน้า พอมาถึงบ้าน ก็ไม่ควรโดนผูกเชือกจับอาบน้ำเพราะเป็นการเพิ่มความกลัว แต่ อืมมม สภาพนี้แม่ก็ไม่ไหวจะเคลียร์นะลูกสาว อาบให้แม่เต๊อะ...

 

อาโยเข้าบ้านทรายทองวันแรก เป็นวัน Halloween บ้านเราจัดงานพอดี มีแขก มีเด็กหลายคน เราก็ลืมนึกไปว่าอาโยอาจจะไม่คุ้นเคยคนเยอะ ปกติโฮย่าชอบปาร์ตี้เพราะมีคนให้ลามเลียเยอะ แต่อาโยวันนั้นหางจุกตูดตลอดเลย คนมาทักมาเล่นด้วยนางก็นอนตัวเกร็งๆ ปล่อยไปฉี่ที่สนามก็ไม่ค่อยยอมกลับ ต้องออกไปลากเข้าบ้าน เสร็จก็ไปแอบขี้ในห้องเด็กเล่น หลานๆ ต้องมาตามไปเก็บ พอคนเผลอนางก็ย่องเข้าครัว รู้ตัวอีกทีมีเสียงกุกกักๆ นังโยคุ้ยขยะ อ่ะจ้ะ เชื่อแล้วว่ามืออาชีพ ตอนอยู่คลินิกที่เชียงรายอาโยนอนในกรง แต่มาบ้านเราเราให้นอนให้ห้องนอน วันแรกยังไม่รู้ว่านางจะอะไรยังไง เลยให้ไปอยู่ใน walk in closet ติดกับห้องนอนก่อน เพราะจะได้ได้ยินเสียงถ้านางเกิดอาการพังข้าวของ และถ้าฉี่ อย่างน้อยก็เป็นพื้นที่ทำความสะอาดได้ คืนแรกนางก็ดูจะนอนเงียบดี

ปกติเราจะพาโฮย่าออกไปฉี่ตอน 6 โมงเช้า วันนั้นตื่นมาก็เปิดดูห้องอาโย เจอกองฉี่จริงๆด้วย จัดการทำความสะอาดเสร็จก็พาลงไปสวนพร้อมโฮย่า วันต่อๆไปก็พยายามเอานางออกไปตั้งแต่ก่อน 6 โมงเพราะไม่อยากให้ติดนิสัยฉี่ในบ้าน แต่ก็ยังมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยๆ ซักพรมจนเหนื่อย บอกให้เอาออกไปก่อน ซักวันเว้นวันแบบนี้ไม่ไหว ก็ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกับการเช็ดฉี่เช็ดขี้ ซักพรม ถูพื้น โชคดีว่ามีแม่บ้านช่วย แต่แม่บ้านก็แบบไปกลับ ช่วงที่นางไม่อยู่ก็มีแต่แม่หมาจัดการ การมีโฮย่าอยู่ด้วยทำให้เทรนหมาใหม่ได้ง่ายขึ้นทุกเคส เพราะพี่โฮเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ร่วมชายคา น่าจะพอพูดภาษาหมากันเข้าใจบ้าง

ด้วยความที่อาโยใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนมาและนางไม่ได้มีนิสัยเป็นจ่าฝูง นางก็เงียบๆ แต่อย่าให้เผลอ นางฟาดเรียบหมด ช่วงแรกๆ ที่มาอยู่บ้านเรา นางสูดอาหารแบบไม่หายใจอย่างกับพรุ่งนี้จะไม่มีกิน ถังขยะต้องปิดให้สนิท ไม่งั้นนางคุ้ย อาหารและขนมต้องวางไว้กลางโต๊ะ ไม่งั้นนางปีนถึงหมด จำได้ว่ามีครั้งนึงมีเพื่อนให้ครัวซองอย่างหรูมาหนึ่งกล่องมี 4 ชิ้นใหญ่ วางไว้บนชั้นวางของที่สูงกว่าโต๊ะปกติ กะว่าจะกินเป็นอาหารเช้า พอตื่นเช้ามาให้อาหารหมา ปล่อยออกไปทำธุระเสร็จ เราก็ขึ้นห้องไปจัดการกิจวัตรลูกลิงต่อ หมาๆก็ตามอัธยาศัยอยู่ข้างล่าง ลงมาอีกที กล่องครัวซองนั้นกองอยู่บนพื้น ข้างในว่างเปล่า เพื่อนถามว่าอร่อยมั๊ย ตอบได้แค่ว่าอาโยน่าจะอร่อยเพราะกินไม่เหลือเศษเลย ทั้งๆที่เพิ่งกินข้าวเช้าไป

อีกนิสัยที่ยังสลัดไม่ออกซักทีคือความชอบความสกปรกของนาง ปล่อยออกไปฉี่นี่ห้ามให้ละสายตา ไม่งั้นมีน้ำขังตรงไหน จะต้องมีตูดอาโยไปหย่อนตรงนั้น เคยเอาบ่อบัวไปตั้งหน้าบ้าน ได้ไม่กี่วันก็ต้องลาจากเพราะนังโยชอบบบบบกระโดดลงโคลนเหลือเกิน ของสกปรกก็ชอบกิน พาออกไปเดินในซอยสวยๆ เป็นหมามีเจ้าของให้หมาซอยดู แทนที่จะเชิ่ด ดันก้มหน้าก้มตาหาเศษกระดูกตามถนน แม่กลับจากทำงานมาวันนึง แดดดี้บอกว่าอาโยน้ำลายฟูมปาก ส่งรูปไปให้หมอที่เชียงรายดู แล้วพาไปคลินิกแถวบ้าน หมอบอกว่าน้องอาจจะกินคางคกมีพิษเข้าไป ไข้ขึ้นด้วย แต่หนูก็หายภายในวันเดียวนะคะ คุณหมอบอกว่าน่าจะภูมิดีเพราะกินขยะบ่อย เป็นบุญของเราที่เก็บมาเลี้ยง เราตัดเล็บพี่โฮย่า ขี้เล็บติดตรึม เอาวางกองไว้ อาโยก็มาเก็บกินเรียบ อร่อยเหรอ ถามจริง ไอเนื้อ นม ไข่ ที่ชั้นใส่ชามให้เช้าเย็นมันสู้ไม่ได้ใช่มั๊ย

หนึ่งในสิ่งที่เราคิดว่าหมาเมืองไทยขาดคือการมีที่ให้ออกกำลังกาย ปล่อยพลัง dog park ที่มีก็ต้องจ่ายตังค์ สวนสาธารณะทั่วไปก็ไม่ให้หมาเข้า ถ้าให้เข้าก็จะให้ผูกเชือกจูง ครั้งจะเอาไปเที่ยวก็หมาเจ้าถิ่นรอขย้ำตรึม พี่โฮย่าสังเวยบั้นท้ายให้หมาหาดพัทยามาแล้ว ที่บอกไปคราวที่แล้วว่าเรากังวลว่าอาโยจะได้ออกกำลังพอมั๊ยถ้าเรารับมาอยู่ด้วย เพราะโกลเด้นเป็นพันธุ์ที่ชอบวิ่งที่กว้างๆ ชอบวิ่งเก็บลูกบอล แต่ความกังวลของเรานั้นไม่มีมูลเลยสักนิด อาโยเล่นไม่เป็น ไม่รู้จักลูกบอลหรือของเล่น เราโยนบอลให้ fetch กลายเป็นลิงบรินทร์ที่วิ่งเอาวิ่งเอา ในขณะที่อาโยนอนตักเราดูลิงวิ่งไล่บอล อุตส่าห์ซื้อของเล่นมาเตรียมรอ โยนให้ไม่เอาซักอย่าง กลัว นึกว่าโยนไล่ สงสัยเคยโดนใครโยนของใส่เพื่อไล่น้องออกจากพื้นที่

จากวันปล่อยผีถึงวันนี้ อาโยเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะนิสัยกลัวคนนี่ไม่เหลือเลย ตอนนี้คือสลัดไม่ออก ปกติเราไม่ค่อยเรียกนังโยหรอก พี่โฮยังนัมเบอร์วันในใจเรา แต่เรียกแล้วพี่โฮเดินช้า หรือขี้เกียจลุก เราก็จะได้นังโยมาตลอด เราเข้าห้องน้ำก็ไปนั่งเฝ้า เราอาบน้ำก็เข้าไปด้วย ไปเลียน้ำบนพื้น เราลุกไปเข้าห้องน้ำกลางคืนก็ไปเฝ้า เมื่อก่อนแขกมาบ้านนางจะหลบๆ เดี๋ยวนี้เอาคางไปวาง เอาหัวไปแทรกเยี่ยงว่าเค้ามาหาตัว บางทีคนเค้าจะกอดพี่โฮย่าแต่นังโยก็เอาหัวลอดเข้าวงแขนเค้าไปก่อนด้วยความที่เร็วกว่าพี่โฮ ชิ

เราดีใจที่ได้ช่วยหมาตัวหนึ่งให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ดีใจที่เห็นความเปลี่ยนแปลง ขนนางยาวสะพรั่งเป็นโกลเด้นเต็มตัวจากเมื่อก่อนขนเกรียนๆ เรามารู้ว่าขนอาโยร่วงเยอะแค่ไหนในวันที่แม่บ้านติดโควิด แล้วเราติดกักตัวอยู่ในบ้านหลังโตๆกับหมาสองลิงหนึ่ง ขุ่นพระ ชาร์จ dyson กันวันละ 3 รอบ ดูดขนนาง เราชอบที่จะเห็นอาโยวิ่งเล่นกับหมาอื่นๆ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กินช้าลงหน่อยเพราะรู้ว่ามีให้ทุกวัน คือตอนนี้อ้วนมาก ขอให้รักษาหุ่นด้วย อย่างไรก็ตาม แกมาที่สาม พี่โฮย่ายังยืนหนึ่ง ลิงตามมาเบอร์สอง แกรมาทีหลัง ขอให้รอคิวด้วย และขอให้เลิกกลัวการขึ้นรถจนฉี่เล็ดทีเถอะ เราจะได้ไปเที่ยวกัน สาธุ

เนื่องจากอาโยเป็นโกลเด้นที่ไม่มีนิสัยโกลเด้นเลย เป็นน้องตามถนนดีๆนี่เอง เราจึงขนานนามนางว่า “ทองห่อขี้ริ้ว” หน้าสวย ผู้ดี แต่นิสัย...(มองบน) โอ๋ๆๆ ค่อยๆ เรียนรู้ไปนะลูกสาว
 


Let's Grow Old Together