" />

"/>

Hoya, my senior baby

#เรื่องของโฮย่า

I don’t remember the last time your tail wagged…

หมาแก่

เวลารับหมามาเลี้ยงสักตัว น้อยคนจะคิดไปถึงวันที่เค้าแก่ 

เราก็เป็นคนนึงที่ไม่เคยคิด

ที่อเมริกาเราพาโฮย่าไปเที่ยว ไปปีนเขา ไปเดินป่า ไปทุกที่ยกเว้นสระว่ายน้ำเพราะนางจม คนยังทักว่าเก่งจังเป็น bulldog ปีนเขาได้ด้วย 

จนวันนึงที่เราต้องแพลนการเดินทางย้ายกลับเมืองไทยกับหมาหน้าสั้น สายการบินและบริษัทขนย้ายสัตว์ที่เราติดต่อต่างบอกว่าหมาตัวเท่านี้ (40 กิโล) อายุ 8 ขวบถือว่าเป็น senior dog ต้องการการดูแลพิเศษ 

ห๊ะ หมาแก่เหรอ วันนี้ยังไปเดิน 5 ไมล์ชิลๆกันอยู่เลย

เราโชคดีที่โฮย่าไม่เคยป่วย กินดี ออกกำลังกายดี สุขภาพจิตดีมาตลอด ทำให้เค้าแก่ช้า เราคิดว่างั้นนะ ค่าตับค่าไต ค่าใดๆก็อยู่เกณฑ์ปกติ อ่อ แล้วก็หน้าย่นแต่เด็ก สีขาวด้วยเลยไม่เห็นหงอก ดูผิวเผินก็หน้าเหมือนเดิม

แต่วันนี้เมื่อโฮย่าอายุ 13.5 ปี เราได้รู้ซึ้งถึงความลำบากของการเลี้ยงดูหมาแก่...ที่ตัวโต...มาก

กินยาก ไม่อยากอาหาร

โฮย่าไม่เคยมีปัญหาเรื่องกิน กินง่ายอยู่ง่าย ไม่เรื่องมาก วันไหนไม่กินเราจะรู้ว่าเค้าไม่สบาย หรือเค้าต้องการไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย ไปปล่อยพลัง ฉะนั้นเราไม่เคยเข้าใจพ่อแม่ที่มีปัญหาหมากินยาก

มีช่วงหนึ่งเดือนหลังมานี้เองโฮย่ากินน้อยลง...ไปมาก

เริ่มจากกินข้าวไม่หมด หรือใช้เวลานานมากๆ เหมือนลิ้นตวัดข้าวไม่ค่อยขึ้น เราใช้วิธีหมุนๆ ชาม เอาช้อนเขี่ยๆ ให้ทานง่าย สุดท้ายไม่พ้นต้องป้อน การป้อนก็เป็นไปด้วยความทุกลักทุเล เพราะเราต้องยัดอาหารเข้าปาก บางครั้งโดนงับ แอบเจ็บ แหม...นึกว่าแก่ไม่มีฟัน ในขณะที่ป้อนนั้นเราก็ต้องคอยดึงก้นนางขึ้นด้วยเพราะนางทรุด แถมยังชอบเบรคกินน้ำทุกสองคำ แล้วใช้เหนียง bulldog ย้อยๆ สะบัดใส่เหมือนสาดนำ้มนต์ แต่มีรสตับวัวอยู่ด้วย 

แล้วโฮย่าก็เริ่มเบื่ออาหาร เอาให้ดม มีเมิน ตายละ something is seriously wrong! 13 ปีที่รู้จักกันมาไม่เคยเป็น เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ เห็นท่าไม่ได้การ แม่ก็กวาดมาเลยจ้ะ อาหารอันโอชะ ท้อปปิ้งทุกสิ่งอย่าง เนื้อม้า เก้ง กวาง นกกระจอกเทศ ที่เคยคิดว่าแพงไร้สาระ บวกกับวิตามิน อาหารเสริมล้านแปดที่แม่สรรหามาแก้แก่กันตาย ปิดตาอย่าคิดถึงราคา ถ้าโฮย่ากิน then it’s a win ไปอีกหนึ่งวัน 

แต่ก็ไม่วาย เห็นอะไรที่เค้ากิน ซื้อมาเยอะหน่อย อีกวัน ไม่กินละ แง๊...

ทุกวันนี้อาหารพี่โฮย่ามีพร้อมเสมอ เอาให้ดมทั้งวันจนกว่านางจะกิน แต่ทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ เพราะอาโย (โกลเด้น) รอสวบตลอดเวลา

กลางวันไม่ตื่น กลางคืนไม่นอน

เมื่อก่อนโฮย่านอนด้วยกันบนเตียง แม่ไม่เคยเสียเงินให้กรงหมาเตียงหมา พอแก่ลง ก็ให้นางนอนเตียงหมาปลายเตียง แรกๆก็ไม่เรื่องมาก ไปๆ เตียงนี้สูงไป กระโดดลงมาข้อจะเสีย เตียงนี้แข็งไปไม่นอน เตียงนี้เล็ก แม่ก็ซื้อมาหมด อันไหนหมาไม่นอน ก็นอนเองบ้าง ให้หลัวนอนบ้าง ส่วนอาโยนั้นชอบนอนพื้น ไม่ชอบนอนเตียง

ประมาณเดือนมกราคม 2566 โฮย่าเริ่มตื่นกลางคืน เดินไปเดินมา คนอื่นในห้องไม่เป็นอันได้นอน ขึ้นลงบันไดก็ไม่ได้ ต้องใช้ลิฟท์ เราเลยย้ายโฮย่าลงมานอนข้างล่างในห้องของเล่น มานอนคนเดียวได้ไม่นาน แม่ก็ต้องหอบสังขารลงมานอนด้วย เพราะโฮย่าฉี่กลางดึก ทุกวันนี้เราเลยเอาลิง (ลูกชาย) นอนเสร็จแล้วลงมานอนกับหมาต่อ หลับได้ไม่เคยเต็มตา หูต้องผึ่งอยู่ตลอด เพราะเมื่อใดที่โฮย่าขยับแปลว่านางต้องออกไปฉี่

ตีสองตีสามตื่นมาจะอึจะฉี่ งงไม่รู้ตัวเองอยู่ไหน ลุกไม่ขึ้น มองไม่ค่อยเห็น ทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เราต้องช่วยดันก้นนางขึ้นแล้วพยุงออกไปข้างนอก พักหลังมายิ่งหนัก ไม่หลับไม่นอน เดินวนไปวนมาบนเตียง จนเราต้องปรึกษาหมอขอยาระงับประสาท หมอให้เอา melatonin ให้กิน ก็พอช่วยได้บ้าง แต่บางวันแม่ก็เป็นซอมบี้เหมือนกัน โฮย่านอนทั้งวัน ตื่นทั้งคืน

การเดินที่เสื่อมถอย

ตั้งแต่มาเมืองไทย กราฟกิจกรรมของโฮย่าก็ตกฮวบด้วยอากาศที่ร้อนโฮก แต่เราก็ยังพาเค้าไปเล่นบน rooftop garden ที่บ้านกับหมาตัวอื่นเกือบทุกวันจนโฮย่าอายุ 12 ขวบ นางเริ่มเดินขึ้นลงบันไดไม่ไหว เลยไปน้อยลงๆ และหลังๆก็ไม่ได้ไปเลย

เราเปลี่ยนเป็นพาโฮย่าไปเดินลู่น้ำที่ รพส สัปดาห์ละครั้ง ให้ได้ออกกำลังกายและได้เจอผู้คนภายนอกบ้างเพื่อสุขภาพจิตที่ดี ไม่จับเจ่า มีคุณหมอและพี่ๆผู้ช่วยคอยให้กำลังใจ เชียร์ขอบสระ โฮย่าทำได้ดีตลอดเวลา 1.5 ปี จนช่วงเดือนมีนาคม 2566 โฮย่าเริ่มเหนื่อยหอบเยอะ เห่าโวยวาย และไม่เอ็นจอย แถมอึใส่สระเค้าอีก 2 รอบ หมอรีบช้อนสมบัติแทบไม่ทัน เราเลยขอยุติการเดินลู่ เหลือแค่เดินที่สนามเล็กๆ หน้าบ้านและที่ Hoya Barkery headquarter ท่ามกลางเป็ด ไก่ กระต่าย

การมีหมาแก่ตัวโตที่เราไม่สามารถอุ้มเค้าได้ ความกลัวมากๆ อย่างนึงคือกลัวเค้าจะเดินเองไม่ได้ แม้ตอนนี้เวลาโฮย่าจะขึ้นลงรถ เราก็ต้องให้ผู้ชายคอยอุ้มขึ้นอุ้มลง

แต่เราก็ต้องยอมรับความจริงว่าร่าวกายเค้าก็เสื่อมถอยตามกาลเวลา โฮย่าเริ่มทรงตัวไม่ค่อยอยู่ เราต้องใส่ที่รัดอกที่มีหูหิ้วไว้คอยพยุงเวลาลุกจากเตียง หรือออกไปอึ ฉี่ เดี๋ยวนี้ยืนได้ไม่ถึงนาทีก็ขาสั่น และค่อยๆทรุด เดินโย้ไปเย้มา เหมือนคนเมา จนไก่ที่ barkery งงว่าหมานี่เป็นอะไร แต่ก็ยังมีความอยากเดิน บางทีก็เดินวนเป็นวงกลมเป็น 20 นาที จนขาไม่ไหว ล้มพับไปก็มี 

อึ ฉี่ ไม่เป็นที่ทาง

โฮย่าไม่เคยฉี่เรี่ยราด ไม่สร้างอาณาจักร ปล่อยไปข้างนอกจะรู้ทันทีว่าต้องฉี่ ต้องอึให้เรียบร้อย แต่เมื่อแก่ตัวลง หูรูดไม่ดี อั้นฉี่ไม่ได้ ก็มีฉี่ในบ้าน แรกๆ ไม่บ่อย หลังๆ ทุกวัน วันละหลายรอบ เราหมดตังค์ไปกับการหาที่นอนและผ้าปูที่นอนกันน้ำไปเป็นหลักหลายหมื่น 

ไปๆ มีอึในบ้าน แม้ว่าจะเพิ่งกลับมาจากการปล่อยไปข้างนอก จนเราต้องคอยเดินตามแล้วประเมินดูว่านางกินไปเท่านี้เวลานี้ สมควรจะอึเวลาไหน บางทีเพิ่งกลับเข้ามา หรือเห็นนางนอนอยู่ แล้วเราไปทำอย่างอื่น กลับมาเจอนางอึ แล้วเหยียบลื่น ล้มทับเต็มบ้านก็มี เป็นโมเม้นที่ทรมานใจมาก ไม่รู้จะทำอะไรก่อน อึก็ต้องเก็บ ที่นอนก็ต้องซัก น้ำก็ต้องอาบให้โฮย่า เพราะเละทั้งตัว และก็เกิดภารกิจหาสเปรย์ดับกลิ่น เทียนหอมนานาชนิด ที่จะทำให้คนเดินเข้าบ้านแล้วไม่ทำหน้ายี้ บ้านนี้พื้นกระเบื้อง ใช้เสื่อแทนพรม ปูกันลื่นหมาทั้งบ้าน นี่มันหมา หรือราชาจากอาหรับเนี่ย

ต้องตั้งสติว่านี่แหละการรับผิดชอบชีวิตหมาชีวิตหนึ่ง เราต้องดูแลเค้าตลอดชีวิต ใครชอบเอาหมาหาบ้านมาเสนอ เห็นเราเลี้ยงดี ที่ปฏิเสธตลอด ไม่ใช่ไม่อยากเลี้ยงดูเค้านะ แต่เราต้องรู้กำลังเรา ว่าเราทำอะไรได้แค่ไหน ถ้าเรามีหมา 10 ตัวเราก็เลี้ยงเค้าไม่ได้ดีทั้ง 10 ตัวหรอก 

บทเรียนจากการดูแลหมาแก่

รู้สึกว่าเค้าเป็นภาระมั๊ย เอาตรงๆ บางทีก็รู้สึกแหละ จากที่เคยพาไปไหนด้วยกันเป็นเพื่อนเล่น ไปปีนเขา ไปกินข้าว ไปเป็น entertainment บ้านเพื่อน ทุกคนรักและเอ็นดูในความตอแหล เข้าหาคนตลอดเวลาของนาง โฮย่าไม่เคยทำลายข้าวของ หรือเรียกร้องอะไร อยู่บ้านคนเดียวได้ ไม่ต้องจำกัดบริเวณ กินอะไรก็ได้ อึฉี่เป็นที่ทาง

มาวันนี้โฮย่าไม่ร่าเริงเหมือนก่อน คนที่เพิ่งเคยพบเจอ อาจจะรู้สึกว่าเค้าน่าเบื่อ จะไปเล่นกับอาโยซะมากกว่า เราต้องคอยประกบดูแลโฮย่า 24 ชั่วโมง ได้ความรู้สึกแม่ลูกอ่อนอีกครั้ง บอกตรงๆก็เหนื่อยมากอยู่ ไปไหนนานไม่ได้ และค่าใช้จ่ายสูงมากจริงๆ ขนาดโฮย่าไม่ได้มีโรคอะไร แต่เราก็ไม่เคยลังเล ถือว่าเป็นภาระที่เราเต็มใจ เพราะเค้านำพาความสุขมาให้เราไม่รู้เท่าไหร่ในระยะ 13 ปีที่ผ่านมา

ชีวิตหมามันสั้นนะ อย่าปล่อยให้เค้านอนรอเรากลับบ้านหง่าวๆ ทุกวัน เราหายไปหนึ่งวันเค้ารู้สึกเหมือนหนึ่งปี แม่เข้าบ้านทีส่ายหางก้นแทบหลุด เราไม่รู้ว่าโฮย่าหยุดกระดิกหางตั้งแต่เมื่อไหร่ วันนี้เค้าอาจจะไม่มีความสุข ตื่นรู้เหมือนตอนหนุ่มๆ เค้าอาจจะจำเราไม่ได้ ไม่เข้ามาป้อล้อคลุกคลีเหมือนเดิม แต่เราเชื่อว่าเค้ายังสัมผัสความรักความห่วงใยที่เรามีให้เค้าได้ และเค้าก็ยังจะเป็นคนสำคัญสำหรับเราเสมอไป...

การที่เรามาทำ Hoya Barkery ทำให้เราได้ใช้เวลากับโฮย่าอย่างเต็มที่ในวันที่เค้าต้องการเรามากที่สุด...

Hoya the Great. Mommy loves you…