Hoya, the Final Chapter

#เรื่องของโฮย่า

Until we meet again…

 

ทุกการพบกันย่อมมีการพลัดพราก อย่าเสียใจที่เค้าจากไป ดีใจที่เราเคยมีเค้า

Today we celebrate a life well lived.

A life full of fine steaks
A life where mountain tops have been conquered
A life with countless trips and flowers sniffed
A life full of love
A life led with no regrets
The best life a dog could ever hope for

A long life is not measured in the number of days lived but the quality of life gained. To see you suffer breaks me to pieces. Now it’s time for you to roam in heaven where your legs can take you where your heart desires.
For to love is to let go…

May you rest in peace, Hoya the Great, mommy’s forever dog. I love you more than tongue can tell. Your legacy will live on…

Hoya the Great 2009-2023
 

หลังจากเราโพสต์เรื่องการจากไปของโฮย่าก็มีคนเข้ามาคอมเม้นท์มากมาย สิ่งที่เรารู้สึกดีใจมากที่สุดคือการได้รู้ว่าโฮย่าได้ให้ความสุขไม่เฉพาะกับคนที่ได้พบเจอตัวจริง แต่ไปถึงคนที่โฮย่าไม่เคยได้เจอตัว แต่คนเหล่านั้นติดตามเรื่องของโฮย่า ชีวิตของโฮย่าผ่านเฟสบุ๊คเราตั้งแต่วันแรกที่เรารับเค้ามา จนวันที่เค้าแก่และจากไป คนเหล่านั้นไม่เคยมาคอมเม้นท์โพสต์ก่อนๆหน้านี้ แต่เค้าแอบอ่านและติดตาม จนวันที่โฮย่าไม่อยู่แล้ว คนเหล่านั้นได้ทิ้งข้อความว่าเค้ารักและติดตามโฮย่ามาเหมือนเป็นคนในครอบครัว ส่วนคนที่เคยเจอโฮย่าแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ อาจจะครั้งสองครั้ง แต่เค้ายังจำความน่ารักและความประทับใจที่มีต่อโฮย่าได้ หารูปที่เค้าแอบถ่ายกับโฮย่าแบบเราไม่เคยเห็นมาก่อนมาให้ดู ทำให้เรารู้สึกว่าโฮย่าไม่ได้เป็นคนพิเศษสำหรับเราเท่านั้น ไม่ว่าใครที่ได้สัมผัสโฮย่าต่างตกหลุมรักหมาหน้าบู้ใจดีตัวนี้

ในฐานะแม่หมาคนหนึ่ง เรารู้สึกดีใจนะที่หมาตัวหนึ่งทำให้คนมีความสุขได้มากมายหลายคนทั่วโลก เพื่อนจากทุกทวีป แม้แต่คนที่เราไม่ได้เคยสนิทด้วยก็ทักหลังไมค์เข้ามาแสดงความเสียใจกันเยอะมากๆ แล้วยังจะมีลูกค้าที่น่ารักส่งดอกไม้มาให้อีก หมามันทำบุญมาดีกว่าชั้นอีกว่ะ

ส่วนตัวเราอยากให้การจากไปของโฮย่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ มันเป็นชีวิตที่เราใฝ่ฝันจะมี ใช้ชีวิตให้คุ้ม แล้วจากไปแบบไม่มีห่วง ไม่ทรมาน ไม่ยื้อ โฮย่าใช้ชีวิตครึ่งแรกในอเมริกาที่อากาศดี มีสวนสาธารณะให้หมาวิ่งเล่นเยอะแยะ ได้ไปเที่ยว ปีนเขา เข้าป่า นอนเต้นท์​ พายเรือ ตกปลา โดดน้ำ นอนโรงแรมห้าดาว กินวากิว 

 

ตอนย้ายมาเมืองไทยก็ได้นั่งเครื่องบินในแคบินผู้โดยสาร ไปแวะนอน Sheraton ที่ Frankfurt ได้ฉี่บนดินเยอรมัน ทุกคนในสนามบินอยากจะเข้ามาทักทาย หางกระดิกแทบหลุดจากก้น มาเมืองไทยทุกคนก็รัก ได้มาดำรงตำแหน่ง CEO แห่ง Hoya Barkery เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน

 

ต้องบอกว่าโฮย่าไม่เคยมีโรคประจำตัวใดๆ ตรวจประจำปีทุกปี ก็ปกติ พออายุเยอะเราก็ ultrasound ช่องท้อง x-ray และ echo หัวใจ เพิ่มไป ซึ่งก็เจอความเสื่อมของร่างกายตามธรรมชาติ จะมีที่น่าห่วงหน่อยก็คือแคลเซียมที่เริ่มก่อเป็นก้อนตามกระดูกสันหลัง แต่ก็เป็นอะไรที่ช่วยไม่ได้เพราะเราคงไม่ให้เค้าผ่าตัดแล้วด้วยอายุที่เยอะ แต่เราก็ให้หมอมาฝังเข็ม พาไปเดินลู่น้ำ

 

ในช่วงสุดท้ายของชีวิต โฮย่าทานข้าวน้อยลงทุกวัน ทำให้ไม่มีแรงเดิน แต่ใจยังอยากลุกไปไหนมาไหน ก็พยายามขยับตัวหมุนไปหมุนมาจนเหนื่อยหอบตลอดเวลา แม่หิ้วโฮย่าออกไปเดิน ไปฉี่ทั้งวันทั้งคืน บางทีไม่ทันก็ต้องล้างต้องเช็ด จนตัวแม่เองก็พังพินาศ เพราะโฮย่าตัวหนัก และแม่นอนเตียงหมาทุกวันเป็นเวลาหลายๆ เดือน ต้องไปหาหมอ กินยาฝังเข็มทุกสัปดาห์ อาโยเริ่มนอยด์ว่าแม่ไม่สนใจเค้าเลย ลิงก็โดนเหวี่ยงใส่บ่อยขึ้นด้วยความที่เราเครียดและเหนื่อย ถึงจุดที่เราคิดว่าไม่มีใครสนุกแล้ว เราเลยปรึกษาคุณหมอ ทำนัดให้มาปลดโฮย่าจากความทุกข์ทางโลก ให้น้องไปหลับสบาย

 

เราเข้าใจว่าเป็นทางเลือกที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ทำกัน คุณหมอก็บอกว่า 95% ของคนที่ใช้บริการนี้เป็นต่างชาติ แต่เราคิดว่าถ้าเราเป็นโฮย่าเราจะอยากยังไง น้องหมาเป็นลูกที่ไม่มีวันโต เค้าพึ่งการตัดสินใจเรา 100% เราไม่อยากให้เค้าทรมานนานเกินจำเป็น เราเลยคิดว่าเราไม่ยื้อชีวิตเค้าดีกว่า การที่เค้าไม่ทานข้าว เรารู้ว่าเค้าไม่มีความสุขแล้ว เดินไม่ค่อยได้ ขาอ่อนแรง ฉี่ไม่ออก ไตน่าจะไม่ดีแล้ว เราไม่อยากให้ความทรงจำบั้นปลายชีวิตมีแต่ความเจ็บปวด 

 

เราขอคอนแทคติดต่อหมอที่ให้บริการนี้มาจากเพื่อนต่างชาติประมาณ 1 เดือนล่วงหน้า ได้คุยกับหมอถึงกระบวนการต่างๆ และการประเมินว่าถึงเวลารึยัง คุณหมอให้เวลาและให้ความเข้าใจ โฮย่าใช้ชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีเป็น Hoya the Great เราอยากให้การจากไปของเค้าเป็นไปอย่างเต็มภาคภูมิเช่นเดียวกัน หลังจากคุยกับคุณหมอได้ไม่กี่วัน โฮย่าก็มีอาการทรุดลงค่อนข้างเร็ว เราเลยนัดคุณหมอเลย แล้วก็นัดวัด นิมนต์พระสวดด้วย 

 

วันนัด คุณหมอมาที่บ้านพร้อมกับผู้ช่วยหนึ่งคน พูดคุยกับคนในครอบครัว เตรียมความพร้อม โฮย่าตอนนั้นคือนอนสงบอยู่บนเตียงเพราะเราให้ยาแก้ปวดและยาแก้แพ้ที่ทำให้ง่วง ไม่งั้นเค้าจะกระวนกระวาย ไม่สบายตัวทั้งวัน ส่วนกระบวนการจริงๆ ใช้เวลาแค่ 5 นาที มีเรา ทอมมี่อยู่ข้างๆ เราจับหน้าโฮย่า สบตาเค้าตลอด โดยที่คุณหมอคอยบอกเราตลอดว่าตอนนี้กำลังฉีดยาให้น้องซึม ตามด้วย overdose ยานอนหลับ แล้วโฮย่าก็ค่อยๆหลับไปในอ้อมกอดเรา...

เรานำโฮย่าไปประกอบพิธีทางศาสนา ให้พระมาสวดส่งเค้าขึ้นสวรรค์ ให้เค้าอยู่ท่ามกลางดอกไม้ และคนที่รักเค้า และรับเค้ากลับบ้านมาในกล่อง...

ถามว่าเสียใจมั๊ย ไม่เสียใจเลยนะ อาจจะมีน้ำตาด้วยความใจหาย ว่าเราไม่มีเค้าแล้ว แต่พอคิดว่าเค้าต้องเจ็บปวดจากร่างกายที่เสื่อมถอยตามกาลเวลา เราก็คิดว่าเราใช้สติเลือกให้เค้าดีที่สุดแล้ว เราอยากให้เค้ามีแต่ความทรงจำดีๆ และเราอยากจำภาพเค้าในวันดีๆ เราได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ ได้อยู่กับเค้าในโมเม้นท์สุดท้าย เมื่อเราทำเต็มที่ ก็ไม่มีอะไรให้เสียใจ...

Hoya the Great. Mommy loves you forever...

Your legacy lives on...